จากกรณีกรมสรรพสามิตประกาศขึ้นภาษีความหวาน โดยหลังที่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 กรกฎาคม 2564 จะเก็บ 3 บาทต่อลิตร และหลังจากนั้นจะปรับเพิ่มสูงสุด 5 บาทต่อลิตร
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 20 กรกฎาคม 2562 สปริงนิวส์ รายงานว่า จากการสำรวจ พบว่ามีการปรับราคาขายปลีกน้ำอัดลม อาทิ โค้กขวดแก้วขนาด 185 มิลลิลิตร (มล.) ปรับขึ้นจากเดิม 5 บาท เป็น 7 บาท ส่วนขวดขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้นจากเดิม 17 บาท เป็น 20 บาท ในขณะที่ขวดขนาด 280 มล. และขนาด 422 มล. ยังไม่ปรับขึ้นราคา
จากการสำรวจ ร้านค้าปลีกและร้านโชห่วยทั่วประเทศ ได้แจ้งปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มน้ำอัดลมสองยี่ห้อดังทั้ง โค้ก และ เป๊ปซี่ สูตรมีน้ำตาลแบบดั้งเดิม เฉลี่ยขวดละ 2-3 บาท ยกเว้นขนาด 1.2 ลิตร ที่ยังขายในราคา 30 บาทเท่าเดิม เช่นเดียวกับน้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาล ซึ่งยังขายราคาเท่าเดิมทั้งขวดขนาด 330 มล. ขายราคา 10 บาท และขวดขนาด 450 มล. ขายราคา 12 บาท
ด้าน นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หากพบว่ามีร้านค้ากักตุนและปฏิเสธการขายในช่วงนี้เพื่อจะนำไปขายหลังปรับราคาในวันที่ 1 สิงหาคม นี้ จะถือว่ามีความผิด ซึ่งมีโทษสูง จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อมูลจาก KAPOOK
ขณะที่เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่เป็นน้ำสี อาทิ แฟนต้า และ สไปรท์ ขนาด 330 มล. มีการปรับขึ้นจากเดิม 10 บาท เป็น 12 บาท ส่วนขวดขนาด 450 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 12 บาท เป็น 15 บาท และน้ำมะนาวโซดา ขนาด 400 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 15 บาท เป็น 17 บาท ในขณะที่น้ำอัดลมยี่ห้อ มิรินด้า และ เอส จากการสำรวจตามร้านสะดวกซื้อ พบว่ายังคงไม่ปรับขึ้นราคา เนื่องจากสินค้าที่ตั้งวางยังคงเป็นของที่อยู่ในสต๊อกเดิม
ด้าน นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หากพบว่ามีร้านค้ากักตุนและปฏิเสธการขายในช่วงนี้เพื่อจะนำไปขายหลังปรับราคาในวันที่ 1 สิงหาคม นี้ จะถือว่ามีความผิด ซึ่งมีโทษสูง จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อมูลจาก KAPOOK